ผลตรวจสุขภาพผิดปกติหรือไม่ ? ให้ดู 6 สิ่งนี้ 

                  การตรวจสุขภาพประจำปี คือหนึ่งในวิธีดูแลตัวเองที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้เราทราบถึงความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่ระยะเริ่มต้น แม้ยังไม่มีอาการใด ๆ ปรากฏ และการแปลผล “ตรวจสุขภาพ” อย่างเข้าใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ผลตรวจสุขภาพ ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าให้เราเห็น “สุขภาพภายใน” ก่อนที่โรคร้ายจะเกิดขึ้น  บทความนี้จะอธิบาย 6 สิ่ง ค่าตรวจสุขภาพที่ควรรู้พื้นฐาน เพื่อเป็นประโยชน์ในการดูแลสุขภาพและสังเกตุความผิดปกติของร่างกายอย่างตรงจุด เพื่อที่จะได้รีบพบแพทย์ หาสาเหตุของโรค และหาวิธีการรักษาต่อไป

⭐ ค่าความดันโลหิต    ไม่ควรเกิน 120/80 มม./ปรอท

ความดันโลหิต คือการบีบตัวของหัวใจและความดันเลือดไปตามเส้นเลือดแดง เพื่อนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย   ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง เสี่ยงโรคหลอดเลือดในสมองตีบ อัมพฤกษ์ อัมพาต ภาวะไตเสื่อม และโรคหัวใจ สูงกว่าปกติ 3–6 เท่า
ระดับความดันโลหิต  

ข้อควรปฏิบัติของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง

1.    ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
2.    ลดอาหารไขมันและลดอาหารเค็มรวมถึงผงชูรส
3.    ดื่มน้ำให้เพียงพอ
4.    หลีกเลี่ยงภาวะความเครียด

⭐ ระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ควรเกิน 100มก./ดล. หรือน้ำตาลสะสมไม่เกิน 5.7%

น้ำตาลในเลือดสูงเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
ปัจจุบันพบว่ามีคนจำนวนมากมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงโดยไม่รู้ตัว ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งหากเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตได้ทันเวลา ก็สามารถป้องกันและชะลอการเกิดโรคเบาหวานและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

-ไม่ว่าจะอ้วน หรือ ผอม ก็เกิดขึ้นได้
-มี LDL ไขมันเลว สูงขึ้น
-การเผาผลาญผิดปกติ
-มีความเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจตีบ สูงขึ้น 2–4 เท่า

⭐ LDL ชนิดไม่ดี ปริมาณคอลเสเตอรอล ไม่ควรเกิน 100 มก./ดล

คอเลสเตอรอล ที่เป็นโทษต่อร่างกาย  หากทานมากเกินไป จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง
เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจความดันสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย
ค่าไตรกลีเซอไรด์ ไม่เกิน 150 มก.%
ค่าไตรกลีเซอไรด์ คือไขมันและน้ำตาลส่วนเกินที่สะสมอยู่ตามช่องท้อง หรือตามอวัยวะต่าง ๆ หากสะสมมาก จะเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง

⭐ ค่าไต Creatinine

 โดยทั่วไปสารครีเอตินินจะต้องถูกขับออกทางปัสสาวะจนหมด แต่หากยังพบในกระแสเลือดหรือทางปัสสาวะในระดับที่มากเกินเกณฑ์ ซึ่งเกณฑ์ปกติ (ค่าการกรอง 90 mL/min/1.73m²) กรณีเกินเกณฑ์แสดงว่าไตมีความบกพร่อง ไม่สามารถขับสารชนิดนี้ออกไปได้จนหมด หากค่าครีเอตินินสูง ก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอก ถึงผลกระทบ จากยาบางชนิด ปัญหาสิ่งอุดตันในทางเดินปัสสาวะ ภาวะกรวยไตอักเสบ ภาวะหลอดเลือดแข็ง หรือภาวะไตวาย รวมถึงเป็นผลกระทบจากโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันสูง หรือโรคไตได้ 

⭐  ค่าตับ  SGOT (AST) และ  SGPT (ALT)

ค่าตับ SGOT และ SGPT คือค่าที่ใช้วัดการทำงานของตับ และเป็นตัวชี้วัดเบื้องต้นที่บ่งบอกถึงภาวะผิดปกติของตับ เช่น ไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ผังผืดในตับ หรือแม้แต่โรคตับแข็ง หากค่าตับสูงผิดปกติอย่างต่อเนื่อง จึงควรเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อประเมินความเสี่ยงและดูแลอย่างเหมาะสม
ค่าตับปกติควรอยู่ในเกณฑ์ :
•    ผู้ชาย : SGOT ( ALT ) ไม่เกิน 6–55 หน่วยสากลต่อลิตร
•    ผู้หญิง: SGPT( AST ) ไม่เกิน 5–34 หน่วยสากลต่อลิตร
แม้ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ค่าตับก็อาจสูงได้จาก พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ เช่น
–    โรคอ้วน หรือน้ำหนักตัวเกินเป็นเบาหวาน ไขมันในเลือดสูงและมี ไขมันพอกตับ 
-    การดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมากและดื่มติดต่อกันมาเป็นเวลานาน
-    มักทานอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง อาทิ ปิ้งย่าง ของทอด ของมัน ของหวาน
-    ทานยาในปริมาณมากติดต่อกันเป็นเวลานาน
-    พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึกทำให้ตับทำงานหนัก 

⭐  ค่ายูริค  Uric Acid

คือ สารของเสียที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่มีสารพิวรีน ซึ่งมันเป็นของเสียที่ไตจะขับถ่ายออกจากร่างกายทางปัสสาวะประมาณ 75% ส่วนอีก 25% ที่เหลือจะถูกขับออกกับกากอาหาร กรดยูริกในเลือดนี้หากมีการสร้าง และกำจัดออกได้ตามปกติ ก็จะไม่มีผลอะไรต่อร่างกาย แต่เมื่อใดที่มีการสร้างกรดยูริกมากเกินไป หรือน้อยเกินไป จะทำให้ระดับของกรดยูริกในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมันก็จะตกผลึก จับตัวกันเป็นของแข็งแทรกอยู่ในช่องว่างระหว่างข้อต่อและกระดูก ส่งผลทำให้เกิดอาการปวดร้าวตามข้อกระดูกต่างๆหรือที่เรียกว่าโรคเกาต์ นั่นเอง 
ค่ายูริก เกณฑ์ปกติ 
-    ค่าปกติในผู้ชาย: 3.5–7.2 mg/dL
-    ค่าปกติในผู้หญิง: 2.6–6.0 mg/dL