คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิดสำหรับเด็ก

(ศูนย์สุขภาพเด็ก) ผู้เขียนบทความ : ผู้ดูแล

คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิดสำหรับเด็ก

ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 อย. ได้รับรองขึ้นทะเบียนวัคซีนชนิดเชื้อตาย Sinovac และ Sinopharm ในเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปได้โดยไม่ต้องมีการปรับขนาดยา 

ทำให้มีวัคซีนที่สามารถใช้ในเด็กเพิ่มเติมจากวัคซีน mRNA Pfizer BioNTech   ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ทบทวนข้อมูลใหม่ด้านระบาดวิทยา ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19ในเด็กและวัยรุ่น มีคำแนะนำใหม่เพิ่มจากคำแนะนำฉบับที่ 4 วันที่ 27 ธันวาคมพ.ศ. 2564 ดังนี้

  • แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech เป็นลำดับแรกในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป โดยให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 เข็ม ห่างกัน 8 สัปดาห์เนื่องจากมีข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพในเด็กเพียงพอ

พิจารณาใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย Sinovac หรือ Sinopharm เป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับฉีดในเด็กอายุตั้งแต่หกปีขึ้นไป โดยแนะนำสูตรไขว้ (heterologous vaccination) ให้ฉีดSinovac หรือ Sinopharm เป็นเข็มที่1และฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer

BioNTech ขนาดตามอายุเป็นเข็ม 2 เข้ากล้ามเนื้อห่างจากวัคซีนชนิดเชื้อตายอย่างน้อย 4 สัปดาห์

แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้นในเด็กอายุ 12 ถึง <18 ปี ที่เคยได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech ครบ 2 เข็มแล้วอย่างน้อย 4-6 เดือน ด้วยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech 1 เข็ม โดยแนะนำให้ฉีดเข็มกระตุ้นในเด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคโควิด-19 ชนิดรุนแรงเป็นลำดับแรก และให้วัคซีนเข็มกระตุ้นแก่เด็กปกติในลำดับถัดไป

เด็กที่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย Sinovac หรือ Sinopharm 2 เข็ม แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech อีก 1 เข็ม ห่างจากฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายอย่างน้อย 4 สัปดาห์

เด็กและวัยรุ่นที่เคยมีการติดโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะแสดงอาการหรือไม่ก็ตาม หากไม่เคยได้รับวัคซีน แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech เมื่อครบ 3 เดือนนับจากที่เริ่มมีอาการเจ็บป่วยของโรคโควิด-19 หรือกรณีไม่แสดงอาการนับจากวันที่มีผลตรวจพบSARS-CoV2 ด้วย RT-PCR

หรือ ATK

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่นในประชากรจำนวนมาก (mass immunization) ควรให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ยังไม่แนะนำการฉีดในชั้นผิวหนัง (Intradermal)

เด็กที่มีผลข้างเคียงรุนแรงภายหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เช่น anaphylaxis shock,perimyocarditis เป็นต้นให้ระงับการฉีดวัคซีนต่อไว้ก่อนและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ในกรณีเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปีได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech ฝาสีส้มแถบส้ม เป็นเข็ม แรก และต่อมามีอายุครบ 12 ปีก่อนการฉีดวัคซีนเข็ม 2 แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ด้วยวัคซีนฝาสีส้ม แถบส้ม ขนาด 10 ไมโครกรัม (0.2 มล.) อย่างไรก็ตามหากได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ชนิด mRNA Pfizer BioNTech ฝาสีม่วง แถบม่วง ขนาด 30 ไมโครกรัม (0.3 มล.) ก็ถือว่าได้รับวัคซีนครบ

ขอขอบคุณข้อมูลจากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย อ่านเพิ่มเติม   คลิกที่นี่  

Update ข้อมูลเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565





doctor icon
แนะนำแพทย์ ประจำศูนย์

icon-articleบทความประจำศูนย์

ดูทั้งหมด