โรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิคุ้มกัน คืออะไร
(ศูนย์สุขภาพเด็ก) ผู้เขียนบทความ : แพทย์หญิง เบญจมาศ ตันหยง
❤️ โรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิคุ้มกัน คืออะไร
คือ โรคเลือดออกง่ายชนิดหนึ่ง ซึ่งมีภาวะเกล็ดเลือดลดต่ำลงเป็นผลมาจากภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือดของตนเอง ซึ่งในภาวะปกติเกล็ดเลือดทำหน้าที่ในระบบการแข็งตัวของเลือด ดังนั้นเมื่อเกล็ดเลือดลดต่ำลงก็จะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
✨ผู้ป่วยเด็กจะมีอาการอย่างไร
ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออกเอง โดยไม่มีประวัติกระทบกระแทกใดๆ หรือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วพบความรุนแรงของภาวะเลือดออกมากกว่าปกติ
ผู้ป่วยจะมีภาวะเลือดออกอย่างเดียว โดยไม่มีภาวะไข้ ซีด ต่อมน้ำเหลืองโต หรือตับม้ามโต ตำแหน่งที่พบบ่อย เช่น รอยช้ำจ้ำเลือดตามร่างกาย จุดแดงใต้ผิวหนัง เลือดกำเดาออก เลือดออกตามไรฟัน หรือมีประจำเดือนมากกว่าปกติ
ในผู้ป่วยที่มีเกล็ดเลือดต่ำมาก อาจพบเลือดออกในทางเดินอาหาร และระบบประสาท ซึ่งพบได้ไม่บ่อย

✨สาเหตุของโรค เกิดจากอะไร
เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกกระตุ้นให้สร้างสารแอนติบอดี้ มาทำลายเกล็ดเลือดของตนเอง โดยส่วนใหญ่ ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน ผู้ป่วยอาจมีประวัติการติดเชื้อไวรัส หรือการได้รับวัคซีนบางชนิดนำมาก่อน 2-4 สัปดาห์ เกิดได้ในทุกช่วงอายุของเด็ก แต่พบได้บ่อยในช่วงอายุ 2-5 ปี
✨โรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิคุ้มกัน รักษาอย่างไร
หากผู้ป่วยมีเลือดออกน้อย และเกล็ดเลือดไม่ต่ำมาก สามารถติดตามอาการโดยไม่ใช้ยาได้ ทั้งนี้ แพทย์จะพิจารณาการรักษาตาม อาการเลือดออก โอกาสที่จะมีเลือดออกเพิ่มขึ้น ร่วมกับปริมาณเกล็ดเลือด โดยยาหลักที่มีใช้ในประเทศไทย คือ ยากลุ่มสเตียรอยด์ (Corticosteroid) และ ยาอิมมูโนโกลบูลินให้ทางเส้นเลือด (Intravenous immunoglobulin, IVIg) โดยเลือกตัวใดตัวหนึ่ง แต่หากมีอาการรุนแรงมาก ต้องเพิ่มเกล็ดเลือดอย่างรวดเร็ว แพทย์อาจใช้ยาท้งสองตัวร่วมกัน
✨ผู้ป่วยจะหายขาดจากโรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิคุ้มกัน ได้หรือไม่
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ ร้อยละ 60-80 จะหายได้ภายใน 6-12 เดือนหลังได้รับการวินิจฉัย ผู้ป่วยส่วนน้อยร้อยละ 20 จะมีเกล็ดเลือดต่ำนานกว่า 1 ปี และการดำเนินโรคแบบเรื้อรัง ซึ่งต้องได้รับการดูแลต่อไป